พระธาตุผาซ่อนแก้ว สวยงาม อลังการ เขาค้อ เพชรบูรณ์
เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำเขาค้อไปแล้วครับ ซึ่งผู้คนที่มาท่องเที่ยวเขาค้อ ควรที่จะไปเคารพสักการะ
เพื่อความเป็นสิริมงคล และยังสวยงามไม่แพ้ที่ใดๆเลย ไปกันได้ทั้งครอบครัว
ถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ครบ 60 ปี
ความโดดเด่นสวยงามอลังการไม่เหมือนใคร วิวทิวทัศน์สวยๆ ภูเขาล้อมรอบและทะเลหมอกสีขาว
การตกแต่งสวยงาม เกิดจากการนำกระเบื้องสีถ้วยชามเบญจรงค์มุกลูกปัดแก้วแหวนเงินทอง สิ่งมีค่าต่างๆ
ตลอดจนเซรามิคหลากสีสัน มาประดับประดาตกแต่งเป็นลวดลายที่สวยงาม
เมื่อแสงแดดสาดส่องไปทั่วทุกทิศ จะเกิดการสะท้อนไปมา ทำให้พื้นที่โดยรอบเหมือนเมืองสวรรค์เลยทีเดียว
ประวัติความเป็นมา
สถานที่อันเป็นธรรมภูมิที่งดงาม ซึ่งเรียกว่าผาซ่อนแก้วนี้ มีธรรมชาติเป็นภูเขาที่สูงใหญ่ ซ้อนกันเป็นทิวเขาเรียงรายโอบรอบบริเวณศาลาปฏิบัติธรรม และบนยอดเขาสูงตระหง่านนั้น มีถ้ำอยู่บนปลายยอดเขา ซึ่งมีชาวบ้านทางแดงหลายคน ได้เห็นลูกแก้วลอยเหนือฟากฟ้า และลับหายเข้าไปในถ้ำบนยอดผา ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมา และต่างถือว่าเป็นสถานที่มงคล มีความศักดิ์สิทธิ์และเรียกตาม ๆ กันว่า “ผาซ่อนแก้ว” และพุทธสถานที่มาตั้งในจุดที่โอบล้อมด้วยทิวเขาดังกล่าว จึงเรียกว่า “พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว” เพื่อเป็นนิมิตมงคลแก่ชาวบ้านทางแดง และผู้มาปฏิบัติธรรมสืบไป
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ในนาม “พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว” ได้รับการอนุมัติจัดตั้งเป็นวัด ในมงคลนามว่า “วัดพระธาตุผาแก้ว” เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ จากคณะกรรมการมหาเถรสมาคม โดยมีพระครูปลัด ปารมี สุรยุทโธ เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น “วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว” เมื่อ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เพื่อให้สอดคล้องกับบริเวณที่ตั้ง ซึ่งแต่เดิมชาวบ้านเรียกกันว่า “ผาซ่อนแก้ว”
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วตั้งอยู่ในชัยภูมิธรรม ณ บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โดย คุณภาวิณี และ คุณอุไร โชติกูล ได้มีจิตศรัทธาซื้อที่ดินถวายเริ่มแรกจำนวน ๒๕ ไร่ เพื่อก่อสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแก่พระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ปัจจุบันมีผู้ร่วมถวายปัจจัยซื้อที่ดินเพิ่มรวมทั้งสิ้นมีที่ดินรวม ๙๑ ไร่
พระครูปลัดปารมี สุรยุทโธ และ พระครูใบฎีกาอำนาจ โอภาโส สองครูบาอาจารย์คู่บุญคู่บารมี ร่วมกับคณะศิษยานุศิษย์และเหล่าผู้มีจิตศรัทธาจากทั่วประเทศได้ร่วมกันจัด สร้างเสนาสนะ กุฏิที่พักสงฆ์ อาคารปฎิบัติและบรรยายธรรม รวมถึงอาคารที่พักผู้ปฏิบัติธรรมเพื่อรองรับคณะผู้มีจิตศรัทธาจากทุกแห่งหนที่ หลั่งไหลกันเข้ามาอบรมภาวนาในแนวสติปัฎฐานสี่ แห่งองค์พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ากันอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ปิติยินดียิ่งของครูบาอาจารย์กับเหล่าบรรดาศิษยานุศิษย์ที่ได้ร่วม แรงร่วมใจ สละทั้งแรงกาย แรงทรัพย์ พร้อมทั้งความวิริยะอุตสาหะ และ ความตั้งใจมั่นเพื่อให้วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วเป็นที่ปฏิบัติภาวนาสำหรับผู้มีจิตศรัทธาสืบต่อไป…
วัตถุประสงค์การสร้าง
เพื่อเป็นที่สอนปฏิบัติการเจริญสติปัฏฐาน ๔ ซึ่งเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ทรงชี้ว่าเป็นทางสายเอกที่นำไปสู่ความบริสุทธิ์ของกายและใจ ความดับทุกข์ การเข้าถึงมรรคและพระนิพพาน
วัดพระธาตุผาแก้ว เป็นที่วิเวกสงบโอบล้อมด้วยธรรมชาติที่งดงาม ซึ่งความเบิกบานของธรรมชาติ เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดสมาธิ เรียกว่าความสุขเป็นเหตุใกล้ให้เกิดสมาธิ สมาธิเป็นเหตุใกล้ให้เกิดปัญญา ซึ่งศาสนาพุทธล้วนเป็นกระบวนการของเหตุปัจจัย ดังนั้น สถานที่แห่งนี้จึงสร้างให้เหมาะกับเหตุปัจจัย ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่จะช่วยน้อมนำมาสู่ธรรมชาติภายในของตัวเอง
หลักคำสอนของการปฏิบัติธรรม
สติปัฏฐาน ๔ เป็นหัวใจและวัตถุประสงค์หลัก ของการสอนปฏิบัติธรรม ที่วัดพระธาตุผาแก้ว โดยเน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก เพื่อรู้จักฐานที่ตั้งของสติ ตั้งแต่กาย ซึ่งเรียกว่ารูปธรรม และ นามธรรม ตั้งแต่ อารมณ์ จิตใจ ซึ่งอยู่กับเราตลอดเวลา ดังนั้น คำสอนหลักของการปฏิบัติธรรม ที่พุทธธรรมสถานฯ เน้นเพื่อให้รู้จักหลักของการเจริญสติปัฏฐาน ๔ เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
ภายในยอดบนสุด บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ให้พวกเราเคารพกราบไหว้ เพื่อความเป็นสิริมงคล
แก้ว คริสตัน อัญมณี เครื่องเบญจรงค์ต่างๆ นำมาประดับประดาอย่างสวยงาม
แผนที่การเดินทางไป พระธาตุผาซ่อนแก้ว
การเดินทาง จากกรุงเทพฯใช้ทางหลวงหมายเลข 21 ผ่าน สระบุรี และ ลพบุรี จากนั้น เลี้ยวซ้ายสู่ทางหลวงหมายเลข 12 บริเวณแยกอนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง
ขับตรงไปทางทีไปแยกแคมป์สน จุดสังเกตคือ อบต. แคมป์สนอยู่ขวามือ ขับตรงไปกลับรถทางเข้าวัดจะอยู่บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านทางแดงข้างๆ อบต.แคมป์สน
เปิดให้เข้าชม 8.00 – 17.00 น. ไปช้าปิดนะค้าบ
ช่วงเวลาเย็นทั่วทั้งบริเวณวัดจะสะท้อนแสงระยิบระยับเป็นภาพที่สวยงาม
ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://www.phasornkaew.org
ภาพและบทความเรียบเรียงโดย ผู้พันน้อย รักในหลวง
Comments