ผาหินกูบ จังหวัดจันทบุรี อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว เป็นเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ที่โหดและชันค่อนข้างเยอะ ต้องเดินไต่ระดับ ผ่านลำธารและดงทาก (ใครไม่ถูกทากกัดถือว่ามาไม่ถึง 555) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศึกษาธรรมชาติที่ยังไม่ค่อยรู้จักและถูกมองข้ามไปซะส่วนใหญ่ ผมจะมาเปลี่ยนความคิดของใครที่กำลังตัดสินใจอยู่ครับ ว่าผาหินกูบนี้ น่าเที่ยวขนาดไหน
การเดินทางมายัง “ผาหินกูบ” เขาสอยดาวใต้ จังหวัดจันทบุรี
ตัวผมเอง (รถส่วนตัว) เริ่มออกเดินทางจากชลบุรี แต่ขอพูดถึงการเดินทางจากกรุงเทพฯ ละกัน โดยเส้นทางที่ใช้
- เส้นบูรพาวิถี บางนา-ตราด มายังชลบุรีก่อน พอลงบูรพาวิถี ก็เบี่ยงซ้ายออกมาเลี่ยงเมืองชล แล้วเลี้ยวซ้ายออกถนนหมายเลข 344 บ้านบึง-แกลง-จันทบุรี แล้วตรงยาวๆ จนสุดทางไปเลย
- หรือใครจะมาจากมอเตอร์เวย์ก็ได้ สิ้นสุดด่านเก็บเงินด่านสุดท้ายที่ชลบุรี ก็เตรียมออกจากมอเตอร์เวย์ได้เลย ป้ายเขียนบอกออกถนนหมายเลข 344 บ้านบึง-แกลง เหมือนกัน แล้วตรงยาวๆ จนสุดทางไปเลย
- พอมาถึงสุดทางซ้ายไปแกลง-จันทบุรี ส่วนขวาไประยอง เราก็เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหลักหมายเลข 3 ถนนสุขุมวิทครับ แล้วก็ตรงไปสุดทางอีกเช่นเคย
- เมื่อสุดทางแล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนหมายเลข 317 นะครับ เพราะถ้าเลี้ยวขวา เราจะไปน้ำตกพลิ้วหรือจังหวัดตราด
*** แนะนำ…ก่อนเข้าไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ***
ณ จุดนี้ หากเลี้ยวซ้ายไปเลย ของกินหายากแล้วนะครับ สำหรับที่ใครยังไม่ได้เตรียมเสบียงอาหาร ให้เลี้ยวขวาไปก่อน ข้างทางมีตลาด มีของกิน ของขายตามทางเยอะพอสมควร หรือใครรู้เส้นทาง อาจจะเลี้ยวเข้าตัวเมืองจันทบุรี ไปซื้อเสบียงก่อนก็ได้ครับ..ต่อๆ
- ไปตามทางเรื่อยๆ ให้สังเกตป้ายข้างทางจะมีบอกเส้นทางไปวัดทุ่งเพล หรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาวประมาณนี้แหละ โดยเราต้องเลี้ยวซ้ายเข้าตามรูปด้านล่างครับ
- เมื่อเลี้ยวเข้ามาแล้วก็ตรงยาวๆ เลยจ้า การเดินทางของเราใกล้จะเริ่มกันแล้ว
- ขับไปเรื่อยๆ จะเจอ 3 แยก ให้เลี้ยวขวา (แต่ไม่ต้องห่วงครับ มีป้ายบอกเส้นทางให้ทุกแยก) ผมไม่มีรูป ลืมถ่ายมาให้ดู ขับมาเรื่อยๆชมวิวชิลๆ จะเจอ 3 แยกอีกที ให้เลี้ยวซ้าย ตามรูปด้านล่างครับ
- ขับมาอีกหน่อย ก็จะเจอ 3 แยกตัว Y ให้เบี่ยงซ้าย ตามรูปด้านล่างครับ สังเกตที่ถนน จะเริ่มเล็กลง
- ขับตามทางมาเลย ถนนเป็นแบบนี้ ใกล้ถึงแล้ว ทางแคบลงเรื่อยๆ
- จนทางค่อนข้างเลวร้าย เพราะว่าเมื่อคืนฝนตกตั้งแต่เที่ยงคืน มาหยุดเอาตอนเช้าครับ รถเล็ก รถเก๋ง ก็จะขับลำบากหน่อย ให้ขับตามทางไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเลี้ยวไหนแล้ว ความรู้สึกเหมือนผ่านชุมชนชาวบ้าน แต่ยังมีป้ายบอกทาง และที่กั้นตามรูปเลยครับ
- เมื่อมาถึงแล้ว เข้ามาจอดด้านในเลยครับ จอดรถได้เยอะ ค่อนข้างเงียบเหงา พวกผมมาถึงกันกลุ่มแรก คุยกับพี่เจ้าหน้าที่ (อัธยาศัยดีกันทุกคนเลย) ขอล้างหน้าล้างตา ใครจะอาบน้ำ กินข้าว ก็แล้วแต่สะดวก นั่งพักผ่อนรอเวลาออกเดินทางครับ
การเตรียมตัวเดินป่า “ผาหินกูบ”
ที่นี่เค้าเปิดให้มาเที่ยวได้ตลอดปี แต่ให้ขึ้นได้เฉพาะวันเสาร์และลงวันอาทิตย์เท่านั้น โดยจะมีเจ้าหน้าที่นำทางเป็นจุดๆ เพื่อดูเส้นทาง และลาดตะเวนดูพี่ใหญ่ของเราว่ามาเกะกะเส้นทางหรือป่าว คงไม่ดีแน่ ถ้าเดินๆอยู่แล้วเจอพี่ใหญ่ ในหน้าฝนรองรับคนได้น้อยกว่า เพราะด้านบนที่นอนน้อยครับ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากเจ้าหน้าที่เบอร์ 081-1530308
สิ่งที่ควรรู้ก่อนมาที่หินกูบ
- ค่าเจ้าหน้าที่คนละ 200 บาท และที่นี่มีลูกหาบให้บริการ ติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ครับ
- ผาหินกูบมีความสูงจากระดับน้ำทะเลแค่ 900 เมตรกว่าๆ แต่การเดินเท้าขึ้นนั้น จัดว่า “โหด” ครับ ทั้งชัน ทั้งลื่น ทางเดินแรกๆ ชันแต่ไม่มาก พอผ่านน้ำตกไปแล้ว มีแต่ชันมากกับชันโคด ครับ 555+ ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร
- ด้านบนที่นอนน้อย ไม่มีการจอง ไม่มีสิทธิ์พิเศษอะไร ไม่ว่าคุณจะมาเดี่ยวหรือมากับทัวร์ คุณนอนได้ทุกจุด เพียงแต่ว่า ใครไปถึงก่อน มีสิทธิ์เลือกที่นอนก่อน เพียงแต่เราคนไทยเหมือนกัน มาเดินเพื่อชมธรรมชาติ เพื่อพักผ่อน การมีน้ำใจการแบ่งปันกัน ทำให้เราสนุกมากขึ้นครับ แต่ถ้ามันเต็มจริงๆ เจ้าหน้าที่พร้อมจะช่วยหาที่นอนให้คุณแน่นอนครับ (พี่เค้าใจดีมาก)
- กางเต๊นท์ได้บางจุด แต่คงไม่เหมาะเท่าไร ควรเตรียมถุงนอน ผ้าใบรองพื้น ไปเอง
- หนาวหรือป่าว ถ้านอนใต้หินกูบจุดไฮไลต์ ลมแรงน่าจะหนาวครับ แต่ผมนอนใต้หินจุดล่างสุด ไม่หนาวเลย ลมมาไม่ถึง หรือใครจะขึ้นไปนอนด้านบนเลย ลมพัดสะแด่วมาก ฟลายชีทแทบปลิว
- ด้านบนมีน้ำ เค้าต่อท่อไว้ให้ อาบได้ กินได้ แต่ต้องระวังทากให้ดีๆ
- ที่นี่ไม่ต้องห่วงเรื่องทากน้อยครับ มีตลอดเส้นทาง ยิ่งที่พักตรงลำธารน้ำตก ดงของมันเลย ใครไม่โดนกัดนี่สิแปลก
- ก่อไฟได้ แต่ควรก่อไฟตามจุดที่เค้ามีให้ ไม่ทำลายพื้นที่จนเกินไปครับ
- มาให้ถึงที่ทำการก่อน 9 โมง ถ้าให้ดี มาสัก 8 โมง เพื่อเตรียมตัว จัดสัมภาระให้เรียบร้อย
- ไม่มีของขายนะ ไม่ต้องเอาตังค์ขึ้นไปก็ได้ หนักเปล่าๆ 555
เริ่มเดินขึ้น “ผาหินกูบ”
เจ้าหน้าที่จะให้เราเริ่มเดินขึ้นได้เวลาประมาณ 9 โมง เป็นต้นไปครับ โดยเค้าจะนำเราไปก่อน เราก็ตามๆ ไป ก่อนไป อ่านป้ายทำความเข้าใจกันสักหน่อย เพราะที่นี่ ดงพี่ใหญ่เค้าเลยล่ะ
พร้อมแล้วก็เริ่มเดินกันเลย ทางขวาของป้ายนี้ มีทางเข้าอยู่ มืดๆ เล็กๆ นั่นล่ะ
ทางในช่วงแรก เราจะไต่ระดับไปเรื่อยๆ ชิลๆ ไม่ชันมาก เดินผ่านไร่ระกำ ลองเด็ดกินดูครับ เปรี้ยวจนมะนาวหวานไปเลย
ชิลตามภาพจริงๆ แรกๆ ไม่ชัน ก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เดินไปสักพักฝนตกปอยๆ หมอกลงนิดหน่อย บรรยากาศวังเวง แต่ก็สดชื่น
แวะถ่ายรูปกันสักหน่อย
เดินไปจะถึงลำธาร-น้ำตกอยู่แล้ว ได้ยินเสียงข้างหลังร้องโอ๊ยยและหยุดเดิน เลยวนกลับไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น หนามจากต้นระกำดีดมาโดนที่หน้า ได้เลือดครับงานนี้ ปฐมพยาบาลไปพักใหญ่ ถือว่าพักไปในตัว ตามภาพเลยครับ (การเดินให้ทิ้งห่างจากคนข้างหน้า 2-3 เมตรครับ)
เกือบไปแล้วนะ 555+
หลังจากนั้น เดินมาอีกหน่อย ก็เป็นลำธารแล้วครับ เราพักกินข้าวกันตรงนี้ ใครจะเล่นน้ำก็แล้วแต่ ผมแบ่งเลือดให้เจ้าทากมันก็จุดนี้แหละ ที่นั่งๆ ระวังทากกันด้วย
ปล. ลำธารนี้ ยังไม่ถึงครึ่งทางนะครับ แค่ประมาณ 30-40% ของเส้นทางทั้งหมด
พักให้พอ กินให้อิ่ม หลังจากนี้ไป ทางค่อนข้างชันและชันมากบางจุด จนต้องขึงเชือกให้จับกันเลยทีเดียว
ภาพด้านล่างนี้ น่าจะเป็นจุดที่ชันที่สุดนะครับ ต้องขึงเชือกไว้ให้จับ บวกกับฝนตก ทางลื่นมาก
หลังจากผ่านเชือกเหล่านี้มาได้ ก็ใกล้ถึงถ้ำแล้วล่ะครับ ปากทางเข้าถ้ำ รอเพื่อนสักหน่อย ไม่มีไฟฉาย มันมืดมาก เราต้องเดินรอดถ้ำไป ช่วยกันส่องทางดีๆครับ ลื่นไป โดนหินอาจบาดเจ็บได้
พอออกมาจากถ้ำได้ เดินไปอีกหน่อย ก็ถึงที่พักแล้วครับ เขียนในนี้แลทางมันใกล้ๆ เนอะ แต่ใช้เวลาเดิน 5 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว มาไม่ทันใต้หินกูบครับ เลยมาได้เอาด้านล่าง หมดห่วงถ้าฝนตกไม่เปียก
พวกผมเดินมาถึงที่พักกันครบทุกคนก็เวลา 5 โมงเย็นพอดี ฝนตกปอยๆ เจ้าหน้าที่ไม่แนะนำให้ไปจุดชมวิวครับ เพราะอาจลื่นได้ ก็หุงข้าวกินอาหารเย็นละกัน ใครจะนอนก็นอน ใครจะกินก็กิน สัญญาณโทรศัพท์มี 3G 4G ก็มี พักผ่อนตามอัธยาศัยครับ
ตื่นตี 5 เพื่อมาดูทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น ที่หินอีกก้อนนึงครับ
ถ่ายรูปกันให้สมใจ คนไม่เยอะ พื้นที่เป็นของเรา 555+ จัดรูปเดี่ยวแต่ละคนไปเลย
ยืนคุยกับพี่เจ้าหน้าที่เค้าสักพัก เวลาประมาณ 7 โมงครึ่ง ก็ลงมายังจุดที่นอนครับ
ทิ้งมันไว้ตรงนี้แหละ ให้มาดูพระอาทิตย์ขึ้น ดันมานอน
กลับมาพบว่า กลุ่มที่นอนใต้หินกูบ เก็บสัมภาระเตรียมลงกันแล้ว จะรอช้าทำไม ยึดที่สิครับ นั่งกินกาแฟกับอาหารเช้า พร้อมกับวิวสวยๆ
เดินเลาะหินไปหน่อย ด้านหลังครับ ได้วิวแบบนี้มา
นั่งเล่นสักพัก กลับมานั่งจิบกาแฟจุดเดิม
นั่งแช่กันอยู่จนถึง 10 โมง พี่เจ้าหน้าที่เดินมาบอก ลงได้แล้วนะครับ เราก็เก็บสัมภาระ ถ่ายรูปปิดท้ายกันสักหน่อย
ก่อนเดินลง ฝนตกหนัก สภาพเลยเป็นกันแบบนี้เลย เปียกกันหมด
เดินลงมาถึงด้านล่าง ใช้เวลา 4 ชั่วโมงครับ ฝนตก ทางเป็นขี้เลนลื่นมาก ต้องเดินตามไหล่ทางที่เป็นใบไม้
สิ้นสุดการเดินทาง “ผาหินกูบ”
- ด้านบนมีจุดทิ้งขยะ เป็นจุดเดียวกับที่อาบน้ำ สามารถทิ้งได้ที่จุดนี้ เจ้าหน้าที่เค้าจะขนลงตอนเดินลงครับ หรือใครจะแบกขยะลงมาด้วย ก็จะดีมากเลย
- ด้านบนมีจุดเที่ยวอีกหนึ่งจุด ที่ยังไม่ได้เดินขึ้นไป เสียดายมาก ฝนตก เลยไม่ได้ไป เอาไว้จะกลับไปใหม่
- ช่วงกลางคืน ไม่ได้ถ่ายรูปเลย หลับยาว 555+
- ระดับความโหดของที่นี่ ผมให้พอๆ กับ ภูสอยดาวอุตรดิตถ์(ไม่รวมเนิน 2000) และ เขาหลวงสุโขทัย ครับ (ปล. โหดกว่าภูกระดึงเยอะครับ)
- การท่องเที่ยวเชิงศึกษาธรรมชาติ ควรมีวินัยในการท่องเที่ยว ไม่ทำลาย และช่วยกันรักษาธรรมชาติเอาไว้ครับ
- ประทับใจที่นี่มากตรงที่ ขยะตามทางมีน้อยมากครับ อาจเป็นเพราะ ยังไม่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางก็เป็นได้
ค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทาง
- ค่าน้ำมัน ชลบุรี-จันทบุรี เต็มถังไปกลับ 1000 บาท หาร 3 จ่ายคนละ 300 กว่าบาท (รถอีกคัน ก็ประมาณนี้)
- ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง คนละ 200 บาท
- ค่าข้าว ของกิน ขนม ค่าอาหารคนละ 200 บาท ตลอดทริป
- จิปาถะอื่นๆ บวกลบ ไม่เกิน 100 บาท
- รวมค่าใช้จ่ายคนละประมาณ 800 บาท
ปิดท้ายผาหินกูบกับภาพนี้ครับ ยังเที่ยวไม่ครบเลย แล้วจะกลับมาใหม่นะ หินกูบ…จันทบุรี
รีวิวหินกูบ ทริป 2 วัน 1 คืน กับ Smiletravel
Comments