สื่อต่างประเทศ เผยแพร่ข่าวน้ำมันรั่วไหลจนส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ
โดยเว็บไซต์เดอะ ซัน ของอังกฤษ รายงานว่า เกาะเสม็ดซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ที่รวมถึงชาวอังกฤษ ชายหาดกลายเป็นสีดำ
หลังน้ำมันกว่า 50 ตัน รั่วไหลจากท่อส่งน้ำมันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
นักท่องเที่ยวได้รับคำเตือนให้อยู่ห่างจากชายหาด ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเก็บกวาคราบน้ำมัน โดยคราบน้ำมันได้ส่งผลกระทบต่ออ่าวพร้าว ชายหาดทางฝั่งตะวันตกของเกาะ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างยิ่งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ
นายสุพีร์พัฒน์ จองพานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า เรื่องเร่งด่วนในขณะนี้คือการกำจัดคราบน้ำมันออกจากชายหาดและน้ำทะเล และป้องกันมิให้กระจายตัวไปยังชายหาดอื่นๆ
โดยภาพที่ปรากฏ เป็นภาพของเจ้าหน้าที่ในชุดชีวภาพสีขาวกำลังเร่งขจัดคราบน้ำมันออกจากทรายสีขาวที่อ่าวพร้าวเกาะเสม็ด โดยน้ำมันที่ตักขึ้นมาได้มีการนำไปใส่ถุงพลาสติกที่วางเรียงกันเป็นจำนวนมาก ขณะที่ภาพถ่ายทางอากาศเป็นคราบน้ำมันสีดำ ตลอดแนวชายหาดเป็นระยะทางหลายร้อยเมตร
เจ้าหน้าที่ของรีสอร์ทแห่งหนึ่งเปิดเผยว่า คลื่นสีดำเริ่มซัดเข้ามาตั้งแต่คืนวันอาทิตย์และชายหาดก็เต็มไปด้วยคราบน้ำมันสีดำในช่วงเช้าวันจันทร์ รีสอร์ทได้แนะนำนักท่องเที่ยวอย่าเข้าไปใกล้ชายหาด และนักท่องเที่ยวบางส่วนได้เช็กเอาท์ก่อนกำหนด
ด้านโฆษกสมาคมบริษัทท่องเที่ยวอังกฤษ เปิดเผยว่า มีนักท่องเที่ยวอังกฤษเดินทางเยือนประเทศไทยปีละกว่า 300,000 คน ส่วนใหญ่เดินทางไปยังเมืองพักผ่อนชายทะเลอย่างภูเก็ต สมุย และกระบี่ ที่อยู่ห่างจากรุงเทพฯค่อนข้างมาก แต่สำหรับเกาะเสม็ดซึ่งอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ได้รับความนิยมจากชาวอังกฤษที่ทำงานในประเทศไทย เนื่องจากเดินทางไปท่องเที่ยวได้สะดวก
ก่อนหน้านี้ เคยเกิดเหตุน้ำมันจำนวนหลายพันบาร์เรลไหลลงสู่ทะเลเป็นเวลานานกว่า 10 สัปดาห์ หลังจากเกิดการรั่วทะลักที่แท่นขุดเจาะเวสต์ แอตลาส ของบริษัท ปตท.สผ.ออสเตรเลียในทะเลติมอร์เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ปริมาณน้ำมันที่รั่วไหลได้แผ่กระจายไปถึงน่านน้ำของอินโดนีเซีย ซึ่งนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกล่าวว่ากินอาณาบริเวณเกือบ 90,000 ตารางกิโลเมตร
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : Matichon Online
www.matichon.co.th
Comments