เมื่อวันที่ 21-22 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา ทีม SmileTravel ได้เดินทางฝ่าพายุไปที่ยอดภูทับเบิก ถามว่าไปทำไม พวกผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน มันเป็นการตกลงปลงใจกกันแบบกะทันหันฝุดๆ เอาเป็นว่า หากใครอยากจะเที่ยวภูทับเบิกในหน้าฝน มันมีทั้งข้อดีและข้อเสียพอๆกันครับ
ข้อดีในการเที่ยวภูทับเบิกหน้าฝน
- ทุ่งหญ้าที่เขียวขจี สวยงามมีชีวิตชีวา
- ดอกกะหล่ำปลีที่กำลังจะบาน เพราะชาวบ้านชาวเขาเค้าเพิ่งเริ่มปลูก
- ไอหมอกที่มากกว่าในหน้าหนาว
- อากาศเย็น แต่ไม่หนาวจนไม่เป็นอันทำอะไรเลย
ข้อเสียในการเที่ยวภูทับเบิกหน้าฝน
- 10-20% ที่จะได้กางเต๊นท์ สัมผัสบรรยากาศแบบฟินๆเท่านั้น
- การเดินทางที่แสนจะอันตราย ทั้งฝนทั้งหมอก อันนี้ต้องระวังสุดๆครับ
- หากต้องการถ่ายภาพสวยๆ อาจจะพลาดบางมุม บางเวลา บางโอกาสได้ครับ เพราะฝนจะตกตอนไหนก็ไม่รู้
- อาจจะไม่สบายหรือป่วยได้เลย
ทั้งข้อดีและข้อเสียอาจจะมีมากกว่านี้ ถ้าคุณได้มาสัมผัสเอง สำหรับตัวผม และทีมงานที่ไปนั้น บอกได้คำเดียวว่า ยังไม่อยากกลับเลย การเที่ยวภูทับเบิกหน้าฝน มันเป็นอะไรที่สวยงามเอามากๆครับ
บ่นมาเยอะแล้ว มาดูบรรยากาศตั้งแต่เริ่มออกเดินทางกันดีกว่าครับ
ผมเริ่มออกเดินทางกันเมื่อเช้าวันที่ 21 กันยายน 2556 เวลา 8:30 น. ที่รังสิตครับ แวะปั้มแรกที่ ปตท. บริดจสโตน หนองแค ทานข้าวเติมพลังกันซะก่อนแล้วก็ยิงยาวกันไปเลย
ระหว่างทาง เส้นสระบุรีแยกไปชัยภูมินั้น อากาศค่อนข้างแจ่มใส รถน้อยเพราะคนเค้าไม่เที่ยวกัน (แล้วเรามาทำไมฟร่ะ !!!)
ขับไปเรื่อยๆ เริ่มมีเมฆก่อตัว มืดลงอยู่ไกลๆนู้น
แล้วมันก็ตกครับ แต่ก็ตกหยุมหยิมแค่ให้รถเลอะเท่านั้น ไม่เป็นอุปสรรคอะไรมาก
ขับมาเรื่อยๆ ระหว่างทางมีหมอกและท้องฟ้ามืดและฝนตกตลอดทาง จนถึงวิเชียรบุรีครับ มานี่รู้ๆกันอยู่ มันต้องส้มตำไก่ย่างวิเชียรครับผม
พอลงจากรถ ฝนก็หยุดตก เหมือนให้เราได้แอ็คถ่ายภาพหมู่กันสัก 1 ช็อต พวกเรามาแวะกันที่ร้านตาแป๊ะ 2 ครับ อยู่อีกฝั่งกับขามา ต้องยูเทิร์นรถซะก่อนครับ
รอช้าทำไม สั่งสิสั่ง คนขับผมหิวหน้ามืดไปหมดละ
ตากล้องของเรา ท้องร้องจ๊ากๆๆ
เอ้า!! เมนูอาหาร เลือกเอาเลยครับ ราคาไม่แพงเลย
รสชาติอาหารของร้านนี้ก็ถือว่าโอเคอยู่ระดับนึง ไม่ขอวิจารณ์อะไรนะครับ ลองไปกินกันเองจะดีกว่า กินกันไม่เยอะเท่าไร เพราะเราต้องเดินทางอีกไกลครับ
เสร็จแล้วก็ออกเดินทางกันเลย
มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองเพชรบูรณ์ครับ สภาพอากาศมีแดดออกตลอดทาง รถไม่เยอะมาก การเดินทางสะดวกสุดๆ
มาอีกแล้ว ฝนตกอีกเป็นหย่อมๆ แต่จุดนี้ถือว่าตกแรง
ตัวเมืองเพชรบูรณ์ ตกแรงมากครับ
ขับรถไปได้สักพัก ฝนก็หยุดครับ ตอนนี้เรากำลังจะผ่านเขาค้อ ทางด้านซ้ายมือนี่เอง มีหมอกลงด้านหลังเขาหนาทึบมาก
และก็มาถึงเชิงเขาของภูทับเบิกครับ อีกประมาณ 10 กิโลน่าจะถึงทางขึ้นแล้วล่ะ
ในส่วนของทางขึ้นภูทับเบิกนั้น ผมได้ถ่ายเป็นวีดีโอมาให้ดูว่าตอนขึ้นมันชันและลำบากยังงัยครับ เอาไปจะมาอัพเดทให้เน้อ
อย่าเพิ่งตกใจครับ ทำไมตัดมาเป็นห้องน้ำของอีกวันซะงั้น … คือว่า ตั้งแต่เมื่อวานที่ขับรถขึ้นมาบนภูทับเบิก อีกประมาณ 40% ของทางขึ้นยอดเขานั้น ทั้งฝนทั้งหมอกกระหน่ำลงมาอย่างไม่ปราณีกันเลย ตกมันตลอดคืน ที่พักที่คิดว่าจะหาได้ง่ายๆ ก็กลายเป็นเต็มเกือบหมด เพราะกางเต๊นท์นอนกันไม่ได้ เลยต้องหาห้องนอนกันอลหม่านกันไป ไปๆมาๆ มาได้ที่ ภูสวรรค์ Heaven Hill ครับ พี่ที่ดูแล เค้าใจดีมาก ทำกับข้้าวก็อร่อย เราพักกันห้องละ 800 บาท เลยจัดกันไป 3 ห้อง …ฟิน
นี่ครับ ที่พักของพวกเรา มีทั้งหมด 5 ห้อง เต็มหมด ภาพที่เห็นนี้ ถ่ายตอน 8 โมงเช้าครับ หมอกยังหนามาก มองอะไรไม่เห็นเลย
ถ่ายดอกไม้สักนิดหน่อย ยังไม่ได้เดินไปไหนไกล เพราะยังไม่มีใครตืน
จุดนี้สามารถมารอดูพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าได้ครับ แต่วันนี้ ทริปนี้ อดไป!! 55+
อีกสักรูป มองอะไรไม่เห็นเลย ตรงจุดนี้ เมื่อปีที่แล้วผมมายืนตรงนี้แล้วดูพระอาทิตย์ขึ้น โดยมองจากตรงนี้ เราสามารถเห็นยอดภูกระดึงได้เลยนะครับ
ชมบรรยากาศแบบวีดีโอครับ
เดินมาอีกฝั่งนึงของรีสอร์ท ได้เห็นไร่กะหล่ำปลี กับทางที่เราขับผ่านมา
ภาพอีกมุมนึงครับ หมอกยังหนาตา และผมยังไม่ได้อาบน้ำ 55+
สักภาพสำหรับออแกไนซ์ของเราครับ
ภูสวรรค์นี้เป็นสถานศึกษาโรงเรียนคริสเตียนด้วย
เมื่อพร้อมกันแล้ว ก็ออกมาลุยไร่กะหล่ำปลีกันครับ
ตอนนี้ยังเพิ่งจะปลุกได้ไม่นาน ผมว่าอีกสัก 2-3 อาทิตย์น่าจะได้เห็นดอกกะกล่ำปลีกันสะพรั่งแน่ๆ ใครที่คิดจะไปก็เป็นโอกาสดีเลยนะครับ
น้ำที่เห็นตามใบกะหล่ำ ได้จากไอหมอกและฝนธรรมชาติทั้งนั้น
ไกลไปสุดนู้นเลย ยังพอมีหมอกผ่านตัวไปบ้าง
อาโนเนะ นะ Driver ผม
มันฟินมากเลยครับ อากาศสดชื่นสุดๆ
ยังจะมีไร่กะหล่ำขึ้นอีกเป็นแถบๆแน่นอน นั่น.. เตรียมปลูกกันแล้ว
กำลังถ่ายรูปเล่นกันอย่างสนุกสนาน หันไปมองข้างหลังอีกที ขาวไปหมดเลยครับ หมอกลงจัดอีกแล้ว นี่มันจะ 10 โมงแล้วนะ
มาดูวิธีใส่ปุ๋ยของชาวเขาที่นี่กันครับ
เอ้าาว์ ฮิ้ววววววว..!!
แล้วก็ Check Out ที่พักออกมาเพื่อหาข้าวเช้ากินกันครับ ได้ที่นี่คือ ร้านโรงเตี๊ยม ชื่อดังบนภูทับเบิก
คนไม่ค่อยมี เปิดโอกาสให้เราได้อาละวาดเต็มที่
เมนูอาหารครับ
ขาหมู หมั่นโถ มันต้องลองนะครับ
และพลาดไม่ได้กับน้ำชา ผมมีวิธีชงชามาฝาก
วิธีการชงชาที่ร้านโรงเตี๊ยม
มันกินไม่รอกันบ้างเลย … คงฟินมาก
ขาหมูโดนรุมโทรมครับ เหลือแต่ร่างไร้วิญญาณ 555+
ที่ยอดบนสุดนู้น คือที่พักของพวกเรา โดยถ่ายจากร้านโรงเตี๊ยมครับ
สองตัวนี้มันมาทักทาย น่ารักดีครับ แมวชาวเขาชาวดอย 55+
มาลองดูลองทานกันได้นะครับ รสชาติอร่อยถูกปากดีครับ กินกับอากาศหนาวๆมันช่างมีความสุขจริงๆ
เมื่อกินอิ่มแล้ว ก่อนกลับ ก็แวะที่จุดชมวิว กันก่อน
ตรงจุดนี้ หากจะมาถ่ายภาพ ก็ควรระวังกันด้วย เพราะว่ามันลื่นมาก ถ้าประมาท อาจถึงขึ้นตกเขาเลยนะครับ มันสูงมาก
ยืนถ่ายจากจุดนี้ ก็ได้รูปนี้แหละครับ เห็นทางทั้งหมดที่เราผ่านมาเลย สวยงามมากๆ
มันจะหาเรื่องป้ายหรือว่าจะขอถ่ายรูปกันเนี่ย 55+
คนไม่มีเลย อยากทำอะไร ถ่ายอะไรก็สบาย ไม่ต้องแย่งกันแบบตอนปีใหม่ครับ
บรรยากาศสดชื่นมาก ตอนนี้เวลาเที่ยงแล้ว แต่ยังหนาวอยู่เลย
มองดีๆ เห็นที่พักด้วยนะนั่น
คงได้เวลากลับกันสักที แต่ก่อนกลับ ตรงทางเข้าอุทยานภูหินล่องกล้านั้น มีตลาดเล็กๆ ขายพวกผัก ผลไม้กันอยู่ มาแวะลองซื้อลองชิมกันได้ครับ ผักสดมาก และมันก็หอม กรอบ อร่อย สุดๆเลยล่ะ
เลือกเอาเลย ของดีราคาถูก มีบนนี้แหละครับ
จากนั้นก็ไปถ่ายที่จุดชมวิวกันอีกที่ เจอชาวบ้านม้งด้วย
หมอกลงอีกแล้วครับ นี่มันจะบ่ายโมงแล้วนะเนี่ย
จัดไปอีกสักภาพ
และแล้ววิวข้างล่างก็มองไปเห็นอะไรเลย เพราะหมอกลงหนาจัดมาก ขากลับขับกันอย่างระมัดระวังกันด้วยเน้อออ
สิ้นสุดทริปแล้วครับ ยานพาหนะคู่ใจ Suzuki Swift และ Honda City CNG สำหรับการเดินทางของพวกเรา (เผื่อได้สปอนเซอร์สนับสนุน…อิอิ)
ขอทิ้งท้ายไว้ว่า ภูทับเบิกจะมาหน้าไหน ก็งดงามตามธรรมชาติได้ทั้งนั้นครับ เป็นสถานที่ที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี และสิ่งหนึ่งที่อยากจะให้ช่วยกันรักษาไว้คือ ธรรมชาติอันงดงามของที่นี่ เพราะแต่ละปีๆที่ผมมานั้น ล้วนมีสิ่งก่อสร้างเพิ่มขึ้นมาอย่างทวีคูณ อีกหน่อย ความเป็นภูทับเบิก คอนเซ็ปที่ว่า นอนดูดาวบนพื้นดิน คงจะหายไป เพราะข้างบนภูทับเบิก สว่างไสวไม่แพ้ข้างล่างเลย
เป็นไงบ้างครับ ดูกันเบื่อเลย สำหรับทริปเที่ยวภูทับเบิกหน้าฝน 2 วัน 1 คืน ของพวกเรา อาจจะบรรยายผิดพลาดไปบ้าง ใช้คำที่เป็นภาษาพูดไปบ้าง ก็ขออภัยนะครับ โอกาสหน้า จะเก็บภาพบรรยากาศมาให้ได้เยอะกว่านี้ครับผมสำหรับครั้งนี้ ทีมงาน SmileTravel.in.th ขอลาไปก่อน เจอกันทริปหน้า สวัสดี…
— แนะนำติชมเข้ามาได้ผ่าน Comment ด้านล่างนะครับ —
Comments